การสร้างบ้านเย็น นอกจากการออกแบบที่ตอบรับสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่ปลูกสร้างบ้าน และเอื้อต่อทิศทางการใช้ประโยชน์จากแสงแดดและสายลมแล้ว การเลือกใช้วัสดุที่เสริมให้บ้านเย็น ถือเป็นอีกทางเลือกสำคัญที่น่าสนใจ และปัจจุบันมีนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างมากมาย ที่มีคุณสมบัติช่วยบ้านเย็น เรียกว่ามีตั้งแต่ส่วนบนสุดอย่างหลังคา จนถึงส่วนล่างสุดคือพื้นบ้านเลยก็ว่าได้ สำหรับวันนี้เราจะมาเจาะลึกกันที่สีทาบ้าน พร้อมเทคนิคเลือกสีเพื่อบ้านเย็น พร้อมทนแดดทนฝน คงความสวยงามให้บ้านในระยะยาว
เทคนิคเลือกสีเพื่อบ้านเย็น
1. สีโทนเย็นมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึก
การใช้สีโทนเย็นอาจไม่ได้ส่งผลโดยตรงที่ทำให้บ้านนั้นเย็นขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสีโทนนี้มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้อยู่อาศัย ซึ่งหากเลือกใช้ทาภายในบ้านก็จะช่วยให้ความรู้สึกยามมองเห็นเต็มไปด้วยความสบายตา สบายใจ ไม่ส่งผลให้รู้สึกดุดันหรือร้อนรน รวมทั้งสีโทนเย็นบางสียังสื่อถึงธรรมชาติ ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเสมือนใกล้ชิดธรรมชาติ เช่น สีฟ้า สีเขียว
2. เลือกใช้สีโทนเย็นให้เหมาะกับห้อง
การใช้สีโทนเย็นกับบ้านทั้งหลัง อาจให้อารมณ์ความรู้สึกจืดชืดเกินไปสำหรับบางคน แต่หากจะไม่ใช้เลยก็รู้สึกร้อนรนจนเกินไป ดังนั้นเจ้าของบ้านอาจเลือกใช้สีโทนเย็น ผสมผสานกับสีโทนสดใส เพื่อสร้างความมีชีวิตชีวาภายในบ้านได้ โดยห้องที่เหมาะกับสีโทนเย็นคือ ห้องนอน ห้องรับแขก และห้องน้ำ จะทสำให้รู้สึกผ่อนคลายกับชีวิตจิตใจ และเติมสีสันภายในห้องด้วยของตกแต่งสีเข้ม หรือเฟอร์นิเจอร์สีเข้ม สร้างความมีมิติให้ห้อง รวมทั้งยังสามารถใช้เป็นกระถามต้นไม้เพื่อเพิ่มสีเขียวภายในพื้นที่ ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้
3. ระดับความเข้มของสีมีผลต่ออุณหภูมิ
นอกจากโทนสีที่ส่งผลต่อความรุ้สึกร้อนเย็นในบ้านแล้ว ระดับความเข้มของสียังส่งผลต่ออุณหภูมิในบ้านด้วย แม้จะเป็นสีโทนเย็นก็ตาม เช่น การใช้สีน้ำเงินซึ่งเป็นสีโทนเย็น แต่เมื่อใช้ทาภายนอกบ้านจะมีคุณสมบัติสะท้อนแสงน้อย ในทางกลับกันก็ดูดซับความร้อนได้มากกว่าสีเหลืองอ่อนซึ่งเป็นสีโทนร้อน จึงทำให้บ้านมีอุณหูมิสูงขึ้น
ดังนั้นในการเลือกใช้สีจากโทนสีร้อนหรือเย็นจึงไม่มีผลต่อความเย็นของบ้าน แต่การเลือกสีตามความเข้มและอ่อนของสีต่างหากที่มีผลโดยตรง โดยสีอ่อนจะสะท้อนแสงได้ดีกว่าสีเข้ม และดูดซับความร้อนได้น้อยกว่า เมื่อเลือกใช้ทาบ้านก็จะช่วยให้อุณหภูมิในบ้านเย็นขึ้นนั่นเอง
4. แม้เป็นสีเข้มก็ช่วยบ้านเย็นได้
จากข้อข้างต้นที่กล่าวถึงสีโทนเข้มมีคุณสมบัติดูดความร้อนมากกว่าสีโทนอ่อน แต่ก็ใช่ว่าสีเข้มจะช่วยให้บ้านเย็นไม่ได้เสมอไป เพราะปัจจุบันมีนวัตกรรมสีทาบ้านที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนได้ ดังนั้นสำหรับเจ้าของบ้านที่ชอบสีโทนเข้ม แต่อยากให้บ้านอยู่เย็น อยู่สบาย ไม่ร้อนอบอ้าว ก็สามารถเลือกใช้สีโทนเข้มได้ แต่ต้องดูที่นวัตกรรมที่ผู้ผลิตสีใช้ และคุณสมบัติของสีนั้นๆ หากเลือกใล้ถูกคุณสมบัติ ก็ไม่ต้องเดือนร้อนเรื่องบ้านร้อนอีกต่อไป
5. เฉดสีที่ต่างมีผลให้อารมณ์แต่ละห้องต่างกัน
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า สี มีผลต่ออารมณ์และความรู้สึก ดังนั้นการเลือกเฉดสีให้เหมาะกับการพักอาศัยและการใช้ชีวิตในมุมต่างๆ ของบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น
• สีเหลือง สีครีม ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่น และสดชื่น เหมาะกับการใช้กับห้องนั่งเล่น และห้องครัว
• สีเขียว ให้ความรู้สึกเย็นสบาย สดชื่นร่มรื่นเหมือนสัมผัสธรรมชาติ เหมาะกับห้องนอน ห้องนั่งเล่น
• สีฟ้า ให้ความรุ้สึกปลอดโปร่ง เย็นสบาย กระตุ้นจินตนาการและไอเดียใหม่ๆ จึงเหมาะกับห้องทำงาน ห้องนอน และห้องน้ำ
• สีชมพู สีม่วง ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน อ่อนโยน เหมาะกับห้องนั่งเล่น และห้องอาหาร
• สีขาว สีเทา ให้ความร็สึกสะอาด สบายตา เหมาะกับห้องนอน ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่น
สีมีอิทธิพลต่อการอยู่อาศัย ไม่ใช่เพียงต่ออารมณ์รู้สึกเท่านั้น แต่ยังมีผลกับอุณหภูมิร้อนและเย็นของบ้านที่สัมผัสได้ด้วย ดังนั้นการเลือกใช้สีให้เหมาะสมกับความต้องการ เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในระยะยาวทั้งทางร่างกายและจิตใจของผู้พักอาศัยจึงมีส่วนสำคัญ ดังนั้นจะสร้างบ้านทั้งที ต้องศึกษาและดูรายละเอียดอย่างรอบด้าน เพื่อให้บ้านนั้นตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากที่สุด