ประวัติความเป็นมาของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
ในอดีตการสร้าง “บ้านพักอาศัย” ของคนไทยนั้นนิยมปลูกสร้างบ้านด้วยวัสดุประเภท “ไม้” เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้เพราะสมัยก่อนป่าไม้และทรัพยากรของประเทศไทย มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก รวมทั้งราคาถูกกว่าการก่อสร้างด้วยวัสดุถาวรประเภทอิฐและคอนกรีต ซึ่งจะพบเห็นและนำมาก่อสร้างกับอาคารที่เป็นสถานที่สำคัญ ๆ ของทางราชการเท่านั้น ทั้งนี้การปลูกสร้างบ้านไม้ในสมัยก่อน ต้องอาศัยช่างไม้ฝีมือที่มีความชำนาญและถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านมาหลายชั่วอายุคน จึงจะได้ผลงานที่สวยงามและมีความประณีต
ต่อมาเมื่อป่าไม้และทรัพยากรลดลง การนำเอาวัสดุก่อสร้างประเภทอิฐและคอนกรีตเสริมเหล็กมาใช้ในการสร้างบ้าน เริ่มเป็นที่นิยมแพร่หลายและได้รับการยอมรับจากคนไทยมากขึ้นตามลำดับ ซึ่งระยะต่อ ๆ มาการสร้างบ้านที่ต้องการความมั่นคงถาวร และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ส่วนใหญ่จะทำการก่อสร้างจากโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กและการก่ออิฐฉาบปูน
เมื่อระบบการสร้างบ้านเปลี่ยนจากการปลูกสร้างด้วยไม้ มาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก และการก่ออิฐฉาบปูน ความชำนาญของช่างไม้แต่เดิมนั้น ไม่เพียงพอต่อการจะก่อสร้างบ้านระบบใหม่เสียแล้ว ทั้งนี้เพราะการออกแบบโครงสร้างและรูปแบบทางสถาปัตย์ จะต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้ทางด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม โดยมีสถาบันการศึกษาของรัฐทำหน้าที่ผลิตบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถคือ วิศวกร และ สถาปนิก ออกมาประกอบอาชีพด้านนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งเทคนิคและขั้นตอนการก่อสร้างต่าง ๆ ก็จะต้องได้รับการควบคุมดูแลอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อให้การสร้างบ้านได้มาตรฐานและมีความมั่นคงแข็งแรง
ที่ผ่านมาผู้บริโภคและประชาชนส่วนใหญ่ ยังขาดความรู้ความเข้าใจในบทบาทของวิชาชีพนี้ รวมทั้งการสร้างบ้านพักอาศัยโดยทั่วไป ยังมีความเข้าใจที่ผิด ๆ หลายประการส่งผลให้ทุกวันนี้เราจะพบเห็นผลงาน “ขยะทางสถาปัตย์และวิศวะ” อยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ตลอดจนผู้ประกอบการหรือผู้อยู่ในอาชีพรับเหมาก่อสร้างรายย่อย ๆ มีเกิดขึ้นมากมาย โดยยังไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรใด ๆมาควบคุมการประกอบวิชาชีพนี้ ซึ่งผลที่ตามมาคือการมิได้ยึดถือหรือนำเอาวิชาชีพสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม มาใช้ในการประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจ ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับสินค้าหรือบ้านที่ก่อสร้างตามหลักวิศวกรรม
ความเป็นมาของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
อย่างไรก็ดีเมื่อประมาณ 40 กว่าปีที่แล้ว ธุรกิจรับสร้างบ้านได้ถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทย โดย บริษัท ซีคอน จำกัด คือผู้ริเริ่มเป็นรายแรก เพื่อดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านจนเป็นที่รู้จักของผู้บริโภค ด้วยผู้บริหารและทีมงานวิชาชีพสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมอย่างเต็มระบบ และในเวลาต่อมาธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับการยอมรับและเป็นที่สนใจ ของผู้ประกอบในวงการธุรกิจก่อสร้างมากขึ้น โดยมีผู้ประกอบการหน้าใหม่ ณ เวลานั้นเข้ามาสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างต่อเนื่อง อาทิ บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด , บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด, บริษัท เดอะโมเดอร์นกรุ๊ป เรียล พร็อพเพอทิ จำกัด , บริษัท เมคเคอร์ แอนด์ เดคเคอร์ จำกัด , บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท , ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด เป็นต้น จวบจนปัจจุบันบริษัทที่กล่าวมานี้ก็ยังคงดำเนินกิจการอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านและมีอายุกว่า 10 – 20 ปีมาแล้ว ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมา
เคยมีจำนวนผู้ประกอบการสูงสุด เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2537 ถึงกว่า 200 บริษัท จนธุรกิจรับสร้างบ้านเริ่มแพร่หลายเป็นที่นิยมของผู้บริโภคกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการสร้างบ้านที่ดีมีคุณภาพ แต่จากจำนวนผู้ประกอบการที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในเวลานั้น ก็พบว่ามีผู้ประกอบการที่ขาดคุณสมบัติ ของความเป็นบริษัทรับสร้างบ้านอย่างมืออาชีพจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
แต่แล้วเมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นเมื่อปี 2540 ผู้ประกอบการที่มีอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านต่างได้รับผลกระทบในครั้งนั้นอย่างรุนแรงเช่นธุรกิจอื่น ๆ จนหลายบริษัทต้องเลิกกิจการและหายไปจากธุรกิจรับสร้างบ้านมากกว่า 100 ราย ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคกลุ่มหนึ่ง ที่จ่ายเงินสร้างบ้านไปแล้วไม่ได้บ้าน จะเหลืออยู่เพียงผู้ประกอบการที่มีความเป็นมืออาชีพและมีศักยภาพแข็งแกร่ง รวมทั้งผู้ประกอบการอีกกลุ่มหนึ่งที่ก้าวเข้ามาใหม่ในธุรกิจนี้ สามารถยืนหยัดอยู่ได้ประมาณ 30 กว่า บริษัทเท่านั้น อย่างไรก็ดีวิกฤติในครั้งนั้นส่วนหนึ่งก็ส่งผลดี สำหรับผู้ประกอบการที่ยังคงสามารถต่อสู้ยืนหยัดกับสภาพเศรษฐกิจอยู่ได้ และแปรมาเป็น “โอกาส” ในเวลาต่อมา ด้วยการสร้างชื่อเสียง สร้างความเชื่อมั่นขององค์กรและธุรกิจรับสร้างบ้าน จนเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและประชาชนตลอดจนภาคธุรกิจ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันการเงิน อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้าง ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ดังจะเห็นได้ว่าธุรกิจรับสร้างบ้านนั้น มีความพิเศษและมีบทบาทสำคัญยิ่ง ต่อการผลิตและการจ้างงานในภาคธุรกิจก่อสร้าง ถึงแม้ว่าประเทศจะประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจในยามนั้นก็ตาม
ปี 2545 – 2547 สภาพเศรษฐกิจโดยทั่วไปเริ่มฟื้นตัว รวมทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจรับสร้างบ้านก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และเริ่มมีผู้ประกอบการรับสร้างบ้านทั้งรายเดิมที่หายไปและรายใหม่ ๆ กลับเข้าสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านอีกครั้งกว่า 150 ราย ส่งผลให้การแข่งขันในธุรกิจรับสร้างบ้าน กลับมาคึกคักใหม่และการแข่งขันเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการการที่เข้ามาใหม่ ๆ และกล่าวอ้างตังเองว่าเป็น “ บริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีประสบการณ์มายาวนาน ” เข้ามาแข่งขันในธุรกิจนี้ โดยไม่คำนึงถึงผู้ประกอบวิชาชีพด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของบริษัทรับสร้างบ้าน รวมทั้งขาดจรรยาบรรณในการประกอบอาชีพ ดังตัวอย่างของผู้ที่อยู่ในธุรกิจนี้มาเก่าก่อน ส่งผลกระทบต่อและเกิดความเสียหายต่อภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้าน
บทเรียนจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และผลของผู้ประกอบการที่เข้ามาสู่ธุรกิจอย่างไม่บริสุทธิ์ใจในการประกอบอาชีพนี้ ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านชั้นนำไม่สามารถนิ่งเฉยอยู่ได้ หากว่าวันหนึ่งภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจนี้เกิดปัญหาขึ้นอีก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ผู้ประกอบการที่ยังขาดศักยภาพและไม่เข้มแข็งพอ ในการบริหารจัดการธุรกิจอาจจะต้องเลิกกิจการและหายไปอีก รวมทั้งภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านที่จะเกิดความเสียหาย และขาดความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคและประชาชน ทั้งนี้ก็จะกลับไปสู่วัฏจักรเดิม ๆ ซึ่งทำให้ไม่สามารถที่จะพัฒนาศักยภาพตลาดรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านให้เติบโตได้อย่างมั่นคงดั่งเช่นที่ผ่านมาหลายสิบปี ดังนั้นกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านจึงได้มีการรวมตัวและร่วมมือกันจัดตั้ง สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ( Home Builder Association ) ขึ้นมา เพื่อหาแนวทางและวางเป้าหมายในการพัฒนาธุรกิจรับสร้างบ้านร่วมกัน พร้อมหาพันธมิตรในการสร้างการเติบโตของภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านให้ขยายออกไปในวงกว้างหรือทั่วประเทศ
Home Builder Association History
In the past, home building had mainly based on wood due to the abundance of forest resources in Thailand. The cost of wood used for construction was lower compared to other building materials such as bricks and concretes, which then were used mainly for significant official places. Carpenters passed on their skills and expertise from generation to generation in order to deliver the beauty and delicacy of home building.
Later, when forest and natural resources depleted, brick laying and reinforced concrete construction have widely been the materials of choice by many Thais due to their durability and strength for home building.
Shifting from the old wooden home buildings to newer brick and reinforced concrete construction systems required more expertise as compared to conventional carpentry processes. This is because of the architectural pattern and construction design needed to achieve better and stronger infrastructure. Architects and engineers were especially trained by public education institutes to work in these fields. Moreover, construction techniques and processes have to be monitored and controlled in compliance with academic standards in order to ensure construction quality and endurance.
However, most people and consumers in the past still lacked the understanding of such field. That misconception of house buildings has turned out to be “architectural and engineering thrash”, as seen in many urbanscapes. In addition, minor contractors and entrepreneurs were widely set up without any public agents or organizations. Construction products and houses which were built and delivered to the consumers by them were substandard mainly because of their negligence in hiring professional architects and engineers.
Home Building Business Background
The home building business saw light 40 years ago through Seacon Co., Ltd. a construction pioneer. It has delivered well- known home building to the public with full service of administration and professional architects and engineers. Because of this, home building services became more accepted and roused the interest of entrepreneurs in the construction industry which brought in new comers into home building business such as, Four Pattana co., Ltd., Royal House Co., Ltd., The Modern Group Real Property Co. Ltd., Maker & Decor Co., Ltd., Landyhome (Thailand) Co.,Ltd., Patumdesign Develop Co., Ltd. Over the past two decades, these companies have been at the forefront of home building business. As per 1994, there were over 200 home building companies which provided services for premium quality home building to support consumer demands. However, due to the large number of operators, quite a lot of unprofessional home building companies also came about.
When the economic crisis in 1997 erupted, over 100 home building service operators were seriously affected. They were forced to cease their operation and left out of the business which affected consumers who had already spent their money on the undelivered houses. Despite this economic shock, there were approximately 30 companies with professional capacity which still stayed in the business.
The positive side of the crisis has turned into an opportunity for some operators who remained to further establish their credentials. As a result, they were accredited by consumers and related business sectors such as financial institutes, construction material industry, construction material manufacturers and distributors etc. In the midst of the crisis, home building services apparently played a major role in production and employment in the construction industrial sector.
In 2002- 2004, the Thai economy started to recover. At the same period, the real estate industry and home building service sectors rapidly improved. Over 150 home building operators that previously left the business re-emerged together with new players. This brought life to a bustling competitive home building business sector. The competition was sprawling especially among newcomers who falsely claimed that they were “long term home building service operators” regardless of the lack of professional architects and engineers, which is one of the most significant qualifications that home building companies should possess. These companies also lacked professional ethics. These problems have caused negative impact on the image of home building business in Thailand.
The lesson from the past economic crisis and boom in low quality companies are the problems that the home building service leaders could not overlook. If economic and business crises happen again, unskilled and unprofessional entrepreneurs close down their businesses, then the overall image and credibility of the home building service business would again be ruined-- which would affect the level of stability of the said sector.
Because of this, a group of home building service business operators had set up a Home Builder Association that aims to set guidelines and goals for home building businesses which includes searching for networks in order to expand the growth of home building service nationwide.