มีที่ดินเปล่าอยู่แล้ว แต่ยังไม่รู้จะเริ่มสร้างบ้านอย่างไร? อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ เพราะการสร้างบ้านในฝันไม่ได้มีแค่เรื่องแบบบ้านหรือการก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยสำคัญอีกหลายอย่างที่ต้องเช็กให้ชัวร์ก่อนลงมือก่อสร้าง ไม่อย่างนั้นอาจเจอปัญหาตามมาแบบไม่จบไม่สิ้น
เพื่อให้การสร้างบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น นี่คือ 5 เช็กลิสต์สำคัญที่คุณต้องตรวจสอบก่อนเริ่มต้นสร้างบ้านจริง
ลงทะเบียนร่วมงาน “รับสร้างบ้าน FOCUS 2025
รับฟรี! e-Book "Design Your Life, Design Your Home 2025"
รวมแบบบ้านพร้อมแปลน จากบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำทั่วประเทศ คลิกที่นี่
5 เช็กลิสต์สำคัญที่ต้องตรวจสอบก่อนเริ่มก่อสร้างจริง
- เช็กกฎหมายและข้อกำหนดการก่อสร้าง
ก่อนที่จะเริ่มลงมือออกแบบบ้านในฝัน สิ่งแรกที่ต้องทำคือการตรวจสอบกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างในพื้นที่ที่จะก่อสร้างอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าการก่อสร้างเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและไม่ละเมิดข้อบังคับใดๆ สิ่งที่ควรเช็ก ได้แก่
- ผังเมืองและข้อกำหนดการใช้ที่ดิน ตรวจสอบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในโซนที่อนุญาตให้ก่อสร้างที่อยู่อาศัยหรือไม่ และมีข้อจำกัดอะไรบ้าง เช่น ห้ามสร้างอาคารสูงเกินกี่เมตร หรือห้ามสร้างบางประเภทของสิ่งปลูกสร้าง
- ศึกษาพระราชบัญญัติควบคุมอาคารและข้อบัญญัติท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดต่างๆ เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับที่จอดรถ ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย หรือระยะร่นของอาคารจากแนวเขตที่ดิน โดยแต่ละพื้นที่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะห่างของบ้านจากแนวที่ดิน เช่น ต้องห่างจากรั้วเพื่อนบ้านอย่างน้อยกี่เมตร หากละเลยเรื่องนี้ อาจถูกสั่งให้รื้อถอนหรือแก้ไขภายหลัง
- ตรวจสอบข้อบังคับอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อการก่อสร้าง เช่น ข้อบังคับเกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อม ข้อบังคับเกี่ยวกับการอนุรักษ์พื้นที่ รวมถึงข้อบังคับท้องถิ่น กฎระเบียบของเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เพราะอาจมีข้อบังคับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการก่อสร้างและการใช้งานพื้นที่
การตรวจสอบกฎหมายและข้อกำหนดเหล่านี้อย่างละเอียดจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง เช่น การถูกสั่งให้แก้ไขหรือรื้อถอนอาคารเนื่องจากการก่อสร้างที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
- ตรวจสอบสภาพที่ดินและการถมดิน
แม้จะมีที่ดินแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถก่อสร้างได้ทันที ต้องตรวจสอบสภาพที่ดินให้แน่ใจว่าสามารถรองรับน้ำหนักของบ้านได้ และไม่มีปัญหาด้านการระบายน้ำ ซึ่งสามารถพิจารณาได้จากรายละเอียดต่างๆ เช่น
- ระดับดินและการทรุดตัว หากเป็นที่ดินต่ำ ควรถมดินให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำท่วม และต้องบดอัดดินให้แน่นเพื่อป้องกันปัญหาการทรุดตัวของบ้าน นอกจากนี้ยังรวมถึงความลาดชัน อาจต้องมีการปรับระดับดินเพื่อให้เหมาะสมกับการก่อสร้าง
- คุณภาพของดิน ดินบางประเภท เช่น ดินเหนียว หรือดินอ่อน อาจไม่เหมาะกับการสร้างบ้านเพราะไม่สามารถรับน้ำหนักได้ดี จำเป็นต้องเสริมฐานรากให้แข็งแรงด้วยเสาเข็มหรือการปรับปรุงชั้นดิน
- ระบบระบายน้ำ ควรสำรวจว่าพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาน้ำท่วมหรือไม่ หากเป็นพื้นที่น้ำขังง่าย อาจต้องออกแบบระบบระบายน้ำเพิ่มเติม
หากที่ดินมีระดับต่ำหรือมีสภาพที่ไม่เหมาะสมกับการก่อสร้าง อาจต้องมีการถมดินและบดอัดให้แน่นก่อนเริ่มก่อสร้าง และการตรวจสอบสภาพที่ดิน การถมดินอย่างเหมาะสมจะช่วยให้บ้านมีความแข็งแรง มั่นคง และปลอดภัยจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- วางแผนงบประมาณให้รอบคอบ
การสร้างบ้านเป็นโครงการที่มีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น การวางแผนงบประมาณอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้คุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและหลีกเลี่ยงปัญหาการเงินที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งในการวางแผนงบประมาณ คุณควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนี้
- ค่าก่อสร้างหลัก รวมถึงค่าแรงและค่าวัสดุที่ต้องใช้
- ค่าออกแบบและค่าขออนุญาต ต้องเตรียมงบเผื่อสำหรับสถาปนิก วิศวกร และค่าธรรมเนียมขออนุญาตก่อสร้าง
- ค่าตกแต่งภายในและระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบไฟฟ้า ประปา และเฟอร์นิเจอร์
- งบสำรองเผื่อฉุกเฉิน เผื่องบไว้อย่างน้อย 10-20% ของงบทั้งหมด เพื่อรับมือกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
นอกจากนี้ คุณควรเผื่องบประมาณสำรองไว้สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาวัสดุที่ผันผวน หรือค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้าง
- เลือกทีมงานมืออาชีพ
การสร้างบ้านเป็นงานที่ซับซ้อนและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจากทีมงานมืออาชีพ ซึ่งรวมถึงสถาปนิก วิศวกร และผู้รับเหมา การเลือกทีมงานที่มีประสบการณ์และผลงานที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้การสร้างบ้านของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและมีคุณภาพ ซึ่งในการเลือกทีมงาน คุณควรพิจารณา
- เลือกทีมงานที่มีประสบการณ์ในการออกแบบและก่อสร้างบ้านประเภทที่คุณต้องการ
- ตรวจสอบผลงานที่ผ่านมาของทีมงานว่ามีคุณภาพและตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่
- ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของทีมงานจากรีวิวหรือคำแนะนำจากลูกค้าเก่า
- ทำสัญญาว่าจ้างกับทีมงานอย่างชัดเจน โดยระบุรายละเอียดของงาน ค่าจ้าง และกำหนดเวลาแล้วเสร็จ
การเลือกทีมงานมืออาชีพจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าการสร้างบ้านของคุณจะดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและได้บ้านที่มีคุณภาพตามที่คุณต้องการ
- ออกแบบบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และอนาคต
บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้อยู่อาศัย ดังนั้น การออกแบบบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และอนาคตของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งในการออกแบบบ้าน คุณควรคำนึงถึง
- ฟังก์ชันการใช้งาน ออกแบบบ้านให้มีพื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของคุณ เช่น จำนวนห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่ทำงาน
- ความสะดวกสบาย ออกแบบบ้านให้มีความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย เช่น การจัดวางผังห้องที่เหมาะสม การเลือกใช้วัสดุที่ทนทาน และการติดตั้งระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัย
- ความสวยงาม ออกแบบบ้านให้มีความสวยงามและสอดคล้องกับสไตล์ที่คุณชื่นชอบ
- การรองรับอนาคต ออกแบบบ้านให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ เช่น การมีพื้นที่สำหรับสมาชิกในครอบครัวที่อาจเพิ่มขึ้น หรือการออกแบบให้รองรับการใช้งานในวัยเกษียณ
- การใช้เทคโนโลยีและพลังงานทางเลือก เช่น ระบบบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) หรือการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อลดค่าใช้จ่ายระยะยาว
การสร้างบ้านเป็นโครงการใหญ่ที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ตั้งแต่การตรวจสอบข้อกฎหมาย สภาพที่ดิน วางแผนงบประมาณ ไปจนถึงการเลือกทีมงานและการออกแบบบ้านให้เหมาะสม อย่าลืมว่าบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่แห่งความสุขของทุกคนในครอบครัว หากเตรียมตัวให้ดีตั้งแต่แรก จะช่วยให้การสร้างบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น และได้บ้านที่ตอบโจทย์ทั้งความต้องการและคุณภาพชีวิตในระยะยาว
พบกันที่งานรับสร้างบ้าน FOCUS 2025
12-16 มีนาคม 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 8
ลงทะเบียนฟรี! คลิกที่นี่
