1. หลักการและเหตุผล
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นการรวมตัวกันของผู้ประกอบธุรกิจรับสร้างบ้าน เพื่อการพัฒนา และยกระดับมาตรฐานของธุรกิจให้เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันสมาคมฯ มีสมาชิกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
- สมาชิกสามัญ ประกอบธุรกิจ รับสร้างบ้าน
- สมาชิกวิสามัญ ก ประกอบธุรกิจ รับสร้างบ้าน
- สมาชิกวิสามัญ ข ประกอบธุรกิจ จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการสร้างบ้าน
ซึ่งสมาคมฯ ก่อตั้งขึ้นมาในปีนี้เป็นปีที่ 13 ได้มีการทำประชาสัมพันธ์มาอย่างต่อเนื่อง จึงมีความประสงค์ที่จะสร้างความรับรู้ ความเข้าใจ ในภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้าน และเผยแพร่บทบาท รวมถึงกิจกรรมในด้านต่าง ๆ ของสมาคมฯ ต่อสังคม และผู้บริโภค
2. เป้าหมาย
2.1 ภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านโตขึ้น
2.2 เพื่อขยายจำนวนและฐานสมาชิกให้มากขึ้น
2.3 เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมก่อสร้างบ้าน
2.4 สังคมให้การยอมรับ
3. วัตถุประสงค์ของการทำประชาสัมพันธ์
3.1 วางแผนและเสนอหัวข้อในการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือของสมาคม
3.2 นำเสนอแนวทางการประชาสัมพันธ์ กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งกิจกรรมหลัก และกิจกรรมที่ส่งเสริม เป้าหมายต่าง ๆ
3.3 การเผยแพร่และสื่อสาร ในช่องทางต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพทั้งภายนอกและภายในสมาคมฯ
3.4 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจของผู้บริโภค
3.5 เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในหมู่สมาชิก
4. ขอบเขตการดำเนินงาน/รายละเอียดการดำเนินงาน
ให้ผู้เสนอทำประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ พร้อมทำกรอบตัวชี้วัดเพื่อใช้ในการพิจารณาผลงาน
5. ค่าจ้างและการจ่ายเงิน
สมาคมฯ จะจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างเป็นรายเดือน เมื่อผู้รับจ้างได้ดําเนินงานแล้วเสร็จและส่งมอบแฟ้มรายงานเป็นรูปเล่ม ทุก ๆ ต้นเดือนถัดไป ไม่เกินวันที่ 8 ในกรณีที่ตรงกับวันหยุด ให้จัดส่งได้ในวันทำการถัดไป และมีรายละเอียดของราคาคอลัมน์นิ้ว ในผลงานแต่ละชิ้นว่ามีมูลค่าเท่าใด
6. คุณสมบัติของผู้เสนอราคา
6.1 ต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายไทย และดำเนินธุรกิจด้านการประชาสัมพันธ์หรือการจัดงานประชุม/สัมมนา
6.2 ต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการดําเนินธุรกิจด้านการประชาสัมพันธ์หรือ การจัดงานประชุม/สัมมนา ไม่น้อยกว่า 10 งาน โดยจะต้องมีการแสดงรายละเอียดประกอบได้แก่ ประวัติความ เป็นมาบริษัท ผลการทํางานและประสบการณ์ของบริษัทในงานในลักษณะเดียวกับการดําเนินงาน
6.3 ต้องไม่เป็นผู้มีรายชื่อในบัญชีผู้ทิ้งงานของสมาคมฯ
7. หลักฐานการเสนอราคา
ผู้เสนอราคาจะต้องเสนอเอกสารหลักฐานแนบมาพร้อมกับซองเสนอราคา โดย ต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้
(1) เอกสารนิติบุคคลผู้เสนอราคา ให้ยื่นสําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
(2) สําเนาใบทะเบียนพาณิชย์และสําเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมทั้ง รับรองสําเนาถูกต้อง
(3) รายการแผนรายละเอียดการดําเนินงาน งบประมาณ พร้อมรายละเอียดที่จะต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการทั้งหมด
8. การเสนอราคา
8.1 ผู้เสนอราคาต้องยื่นเสนอราคาตามระยะเวลาที่กําหนดไว้ในเอกสารสอบราคานี้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น และลงลายมือชื่อพร้อมประทับตรา ของผู้เสนอราคาให้ชัดเจน
8.2 ผู้เสนอราคาจะต้องเสนอราคาเป็นเงินบาท และเสนอราคาเพียงราคาเดียวโดยเสนอราคารวม และหรือราคาต่อหน่วย โดยคิดราคารวมทั้งสิ้นซึ่งรวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ 7% แล้ว
8.3 ราคาที่เสนอจะต้องเสนอกําหนดยืนราคาไม่น้อยกว่า 60 วัน (หกสิบวัน) นับแต่วันเปิดซองใบเสนอราคา โดยภายในกําหนดยื่นราคา ผู้เสนอราคาต้องรับผิดชอบราคาที่ตนได้เสนอไว้และจะถอนการเสนอราคามิได้
8.4 ผู้เสนอราคาจะต้องยื่นซองเสนอราคาทั้งหมด ต่อประธานคณะกรรมการจัดจ้างผลิตและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน โดยให้ยื่นตรงต่อสมาคมฯ และคณะกรรมการบริหารสมาคม จะเปิดซองใบเสนอราคาของผู้เสนอราคาที่มีสิทธิได้รับการคัดเลือกดังกล่าวข้างต้น ณ ที่ทําการสมาคมฯ
9. หลักเกณฑ์และสิทธิในการพิจารณาราคา
9.1 สมาคมฯ จะพิจารณาคัดเลือก ข้อเสนอทางเทคนิค แผนรายละเอียดการดําเนินงาน ซึ่งแสดงถึงประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสมาคมในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ โดยจะพิจารณาถึงศักยภาพและความพร้อมของทีมงานและผลงานที่ผ่านมา
9.2 การพิจารณาราคา คณะกรรมการบริหารสมาคม จะพิจารณาตัดสินด้วยราคารวม
10. การทําสัญญาจ้าง
10.1 ผู้ชนะการสอบราคาจะต้องทําสัญญาจ้างตามแบบสัญญา กับสมาคมฯ ภายใน 7 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้ง
10.2 สมาคมฯ จะทำสัญญาว่าจ้าง มีกำหนดระยะเวลา 1 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 สิ้นสุดสัญญา วันที่ 31 ธันวาคม 2561
11. งานพิเศษและการกําหนดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
สมาคมฯ มีสิทธิจะสั่งให้ผู้รับจ้างทํางานพิเศษซึ่งไม่ได้แสดงไว้ หรือรวมอยู่ในเอกสารสัญญา หากงานพิเศษนั้น ๆ อยู่ในขอบข่ายทั่วไปแห่งวัตถุประสงค์ของสัญญานี้ นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังมีสิทธิสั่งให้เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขรูปแบบ และข้อกําหนดต่าง ๆ ในเอกสารนี้ด้วย โดยไม่ทําให้สัญญาเป็นโมฆะแต่อย่างใด โดยอัตราค่าจ้างหรือราคาสําหรับงานพิเศษ หรืองานที่เพิ่มเติมขึ้น ที่ไม่ได้กําหนดไว้ในสัญญานี้ สมาคมฯ และผู้รับจ้างจะได้ตกลงกันกําหนดอัตราหรือราคารวมเป็นรายครั้งไป ตามความเหมาะสมและข้อเท็จจริง
12. ค่าปรับ
หากผู้รับจ้างไม่สามารถทํางานให้แล้วเสร็จตามที่กําหนดไว้ในสัญญา และสมาคมฯ ได้บอกเลิกสัญญาแล้ว ผู้รับจ้างจะต้องชําระค่าปรับให้แก่สมาคมฯ เป็นจํานวนเงินวันละ 2,000 บาท (สองพันบาทถ้วน) และจะต้องชําระค่าใช้จ่ายในการประสานงานเมื่อสมาคมฯ ต้องประสานงานกับผู้รับจ้างรายใหม่อีกต่อหนึ่งจนถึงวันแล้วเสร็จ เป็นจํานวนเงินวันละ 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) นับถัดจากวันที่กําหนดแล้วเสร็จตามสัญญาหรือวันที่สมาคมฯ ได้ขยายให้จนถึงวันที่ทํางานแล้วเสร็จจริง นอกจากนี้ผู้รับจ้างยอมให้สมาคมฯ เรียกค่าเสียหายอันเกิดขึ้นจากการที่ผู้รับจ้างทํางานล่าช้าเฉพาะส่วนที่เกินกว่าจํานวนค่าปรับ และค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้อีกด้วย
13. สิทธิของผู้ว่าจ้างภายหลังบอกเลิกสัญญา
ในกรณีที่สมาคมฯ ได้บอกเลิกสัญญาแล้ว สมาคมฯ อาจทํางานนั้นเอง หรือว่าจ้างผู้อื่นให้ทํางานนั้นต่อจนแล้วเสร็จได้
14. กำหนดการ สถานที่ ที่ทำการสมาคมฯ
14.1 กำหนดให้ยื่นซองเสนอราคา และรายละเอียด ภายในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560
14.2 ให้ผู้ยื่นซองเข้านำเสนอรายละเอียด ทุกราย ๆ ละไม่เกิน 30 นาที ในกรณีมีผู้ยื่นซองหลายราย ในวันเดียวกัน
14.3 คณะกรรมการจะประกาศผลการพิจารณาภายในเวลาไม่เกิน 17.00 น. ของวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560
14.4 ทำสัญญา วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560
+++++++++++++++++++++++++
ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่
คุณทัศนีย์ เจริญศิริ (ปลา) 0-2570-0153,0-2940-2744