โดยปกติแล้วงานโครงสร้างหลักของบ้าน อย่าง เสา พื้น ผนัง มีอายุการใช้งานประมาณ 30 ปี ส่วนวัสดุตกแต่งภายใน อย่าง กระเบื้อง ฝ้าเพดาน มีอายุการใช้งานประมาณ 10-20 ปี แต่ปัญหาระบบสาธารณูปโภค อย่าง ท่อน้ำรั่วซึม ระบบไฟฟ้าชำรุด ท่อตัน เป็นส่วนที่ต้องดูแลรักษาทุกวันอย่างสม่ำเสมอ ป้องกันปัญหาที่จะลามถึงงานโครงสร้าง ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาบ้านของเราให้อายุยืนยาวนาน สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้นำ 10 วิธีดูแลบ้านเพื่อรักษาความทนทาน มาฝากกันค่ะ
1. หมั่นทำความสะอาดทุกวัน
ต้องยอมรับว่าหลังจากสถานการณ์โควิด ฝุ่น PM เป็นต้นมา ผู้คนกระตือรือร้นใส่ใจต่อความสะอาด จัดการพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเพาะเชื้อโรคมากขึ้น ต้องเช็ดถูบ้านเรือน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนไม่ทำลายพื้นผิว แต่สามารถขจัดคราบฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีมาตรฐาน ไม่ก่อให้เกิดเชื้อรากับพื้นผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องนอน ที่หากความชื้นนั้นสะสมอาจจะส่งผลต่อสุขภาพตามมาได้เช่นกัน
2. ตรวจสอบห้องน้ำ พื้นที่ชะล้าง
บริเวณนี้ เป็นจุดบอดที่มักพบปัญหาจากการใช้งานมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ท่อตัน ก๊อกรั่ว น้ำหยด ยาแนวเปิด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่นำพาความเสียหายไปส่วนอื่น ๆ ได้ ดังนั้น ควรหมั่นตรวจสอบน้ำรั่วซึมอยู่เป็นระยะ หากพบเสียงปั๊มน้ำทำงานขณะที่ไม่มีผู้ใดใช้งานให้สันนิษฐานห้องน้ำ พื้นที่ชะล้างเป็นอันดับแรก
3. ทำความสะอาดห้องน้ำ ยาแนว
นอกจากจะตรวจสอบจุดจ่ายน้ำในห้องน้ำแล้ว ยาแนว ในห้องน้ำก็ควรได้รับการดูแลเช่นกัน เพราะหากปล่อยปะละเลยไม่ขัดรา ทำความสะอาด ยาแนวก็อาจจะเสื่อมและเปิด เป็นเหตุให้น้ำซึมสู่พื้นหรือผนัง สู่ปัญหาสีร่อน น้ำซึมกระเบื้อง ในอนาคตได้เช่นกัน
4. ตรวจสอบความแข็งแรงของกระเบื้อง
ควรตรวจเช็คความแข็งแรงของกระเบื้องจากเสียง เมื่อเหยียบส่วนขอบแล้วรู้สึกถึงความไม่แน่น (ที่อาจเกิดจากการปูกระเบื้องแบบซาลาเปา) ควรจัดการอุด หรือเรียกช่างมาซ่อมแซม หรือเปลี่ยนแผ่นใหม่ เพราะหากปล่อยให้มีสิ่งสกปรกหรือน้ำหกขัง อยู่ใต้กระเบื้องนาน ๆ จนซึมขึ้นกระเบื้องก็อาจจะทำให้ลื่นล้มได้ มากกว่านั้น การเหยียบซ้ำ ๆ ก็อาจเกิดแตกเป็นบาดแผลอีกเช่นกัน
5. ตรวจสอบหลังคาอย่างสม่ำเสมอ
หลังคาคือส่วนที่ตากแดดตากฝน เจอกับสภาพอากาศและสิ่งสกปรกตลอดเวลา อาจจะผุกร่อนก่อนเวลาอันควรได้ นอกจากการหมั่นทำความสะอาดรางน้ำ หรือกวาดเศษใบไม้ ลูกไม้ต่าง ๆ จากภายนอกแล้ว ก็ควรตรวจสอบจากภายในบ้านเพิ่มเติมว่ามีรอยน้ำไหลจากหลังคาเข้าสู่ตัวบ้านหรือไม่ หรือ มีแสงแดดส่องผ่านทะลุจากรอยแตก รอยต่อของหลังคาจุดใด เพื่อหาแนวทางการซ่อมแซมต่อไป หรือหากยังอยู่ในระยะประกันควรแจ้งบริษัทรับสร้างบ้านเข้าแก้ไขทันที
6. เลือกผลิตภัณฑ์สีทาผนังที่เหมาะกับการใช้งาน
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สีทาผนัง หลังคา ด้านนอก ด้านใน มีทั้งแบบด้าน แบบมัน ซึ่งแต่ละชนิดมีความเฉพาะในการเลือกใช้ เช่น บริเวณด้านนอกต้องเลือกแบบมัน เพื่อให้น้ำไหลไม่เกาะผนังง่าย ป้องกันตะไคร่ และรา ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์สีบางชนิดก็มีคุณสมบัติอุดรอยแตกแยกของผนังด้วย อาจจะดูเลือกยากหากต้องเลือกเอง แต่ส่วนนี้เป็นหน้าที่ของบริษัทรับสร้างบ้านที่เราใช้บริการ ดังนั้น หน้าที่ส่วนของเราจึงเหลือแค่ส่วนดูแล นอกจากขัดถูทำความสะอาดแล้วควรเลือกอุปกรณ์ที่ถนอมจุดอุดรอยดังกล่าวด้วย
7. ระบบไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าหลักที่แต่ละบ้านต้องใช้ในทุก ๆ วัน อย่าง โทรทัศน์ แอร์ เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ แม้จะไม่ได้ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน แต่ก็ไม่ควรละเลย ควรหมั่นตรวจสอบเป็นระยะ ทั้งสายไฟ ต้องอยู่ในสภาพดีไม่กรอบเปราะ ขาด-แตก จากการกัดแทะ หรือ ขาปลั๊กไม่ถ่างหลวม รวมไปถึงตรวจตรา ปลั๊กพ่วง เพิ่มเติมด้วย
8. ถังเก็บน้ำ
โดยส่วนใหญ่ถังเก็บน้ำจะอยู่ด้านนอกตัวบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่โดนแดดลอดผ่านถังเข้าไปทำให้เกิดตะไคร้ได้ ควรขัดล้างทำความสะอาดอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง และหมั่นตรวจพื้นที่ตั้ง ความทรุดตัวของพื้น ดูน้ำรั่ว น้ำซึมร่วมด้วย
9. พื้นที่รอบบ้าน
ไม่เพียงแค่พื้นที่ตั้งของถังเก็บน้ำเท่านั้น โดยทั่วไปเมื่อมีการอยู่อาศัย บ้านจะมีการทรุดตัวลงปกติแต่หากเกิน 10 เซนติเมตร ควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบก่อนมีปัญหาโครงสร้างในระยะยาว
10. ไม่ปล่อยปะให้หญ้ารก
ส่วนต่อเนื่องจากการสำรวจพื้นที่รอบนอกบ้าน คือ เมื่อเราจัดการทำความสะอาดรอบนอกบ้านให้เป็นไปอย่างสะอาด เราจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ส่วนที่ต้องซ่อมแซม เช่น เมื่อไม่มีหญ้ารก เราจะเห็นโพรงใต้บ้านที่อาจเกิดจากการทรุดตัว เห็นรากต้นไม้ที่กำลังคืบคลานเข้าใกล้ฐานรากของบ้าน เป็นต้น
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้นำ 10 วิธีดูแลบ้านเพื่อรักษาความทนทาน มาฝากกันในครั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุก ๆ ท่าน ได้อยู่อาศัยในบ้านพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวกันอย่างปลอดภัย ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นบ้านที่สร้างโดยบริษัทรับสร้างบ้าน ก็จะเบาใจในเรื่องการดูแลให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ ตั้งแต่เริ่มสร้างไปจนถึงการบริการหลังการขายช่วยยืดอายุบ้านออกไปได้ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ยังมีบทความสำหรับคนรักบ้านมาฝากกันแบบนี้อีกแน่นอนโปรดติดตามค่ะ
สนับสนุนบทความโดย
บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย)
ที่อยู่ : เลขที่ 1 อาคารเก้าพูลทรัพย์ ชั้น 3,8 ซอยลาดพร้าว 19 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. 10900
โทรศัพท์ : 02-938-3456-7
อีเมล : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
เว็บไซต์ : www.landyhome.co.th