เรื่องใหม่ เรื่องใหญ่ ที่มือใหม่อยากมีบ้านต้องกุมขมับ เพราะหากตัดสินใจโดยขาดข้อมูลอาจทำให้เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาได้ เมื่อต้องออกแบบบ้าน ดังนั้นเจ้าของบ้านจึงควรเตรียมตัวทำการบ้าน หาข้อมูล สรุปความต้องการของครอบครัวให้ชัดเจน เพื่อให้การพูดคุยกับบริษัทรับออกแบบบ้าน บริษัทรับสร้างบ้าน เห็นภาพของบ้านไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งบ้านหนึ่งหลังต้องอยู่กับเราไปอีกหลายสิบปี ดังนั้นจึงควรเลือกแบบที่สวย ทันสมัยเสมอ และสามารถสร้างได้จริงตามงบประมาณที่กำหนด
วันนี้ HBA จึงได้นำเอา 10 ขั้นตอนที่ช่วยให้การออกแบบบ้านทันสมัยยิ่งขึ้น มาฝาก รับประกันว่าจะช่วยให้บ้านในฝันออกมาสมดังใจแบบไม่ยากเย็น
10 ขั้นตอนที่ช่วยให้การออกแบบบ้านทันสมัยยิ่งขึ้น
1. รู้จักศึกษาพื้นที่โดยละเอียด
เมื่อต้องสร้างบ้านสิ่งสำคัญที่จะกำหนดหน้าบ้าน-หลังบ้าน ได้ดีคือ ทิศทางของบ้าน รวมไปถึง พื้นที่หน้ากว้าง หน้าแคบ ความลึกของพื้นที่ เพราะการออกแบบบ้านที่ดีต้องสอดคล้องเหมาะสมอย่างเคารพธรรมชาติ อย่างการเปิดกว้างตามทิศเพื่อรับแสงและลม ก็สามารถออกแบบบ้านโดยเล่นแสงและเงาเสริมให้บ้านดูมีมิติทันสมัยได้เช่นกัน
2. สไตล์ของบ้าน
เมื่อมีสไตล์บ้านที่ชัดเจนแล้วว่าต้องการแบบบ้านสไตล์ไหน ก็เป็นจุดตั้งต้นให้เราสามารถมองเห็นแนวทางการวางแผนเพื่อออกแบบบ้าน การวางเฟอร์นิเจอร์ การใช้โทนสีได้ เช่น หากชอบบ้านสไตล์รีสอร์ท การแต่งบ้านจะมีการเลือกใช้ไม้เป็นหลัก สีน้ำตาล และการเชื่อมโยงที่สอดคล้องกับความเป็นธรรมชาติ ซึ่งเมื่อแต่ละบ้านมีข้อจำกัดในการเลือกสไตล์ จะทำให้เห็นถึงการออกแบบที่นำนวัตกรรมต่าง ๆ มาปรับใช้ อย่างเช่น หากไม่สามารถปลูกต้นไม้เพื่อเป็นแหล่งอาศัยให้นก กระรอก ต่าง ๆ ได้ เราก็ปรับแต่งความทันสมัยด้วยการใช้กล่องเสียงเลียนแบบได้ เป็นต้น
3. กำหนดขนาดใช้สอย
เมื่อทราบขนาดพื้นที่แล้ว ( ควรศึกษากฎหมายระยะร่นเพื่อให้ได้พื้นที่ที่สามารถใช้ได้จริงก่อนออกแบบบ้าน ) ก็ต้องกำหนดขนาดใช้สอย หรือ รูปทรงบ้านที่ต้องการให้ชัดเจน ทั้งนี้เพื่อง่ายต่อการตั้งงบประมาณ และตำแหน่ง-จำนวนห้องต่าง ๆ ให้เหมาะสม เมื่อมีจำนวนห้องหรือตำแหน่งเทียบกับพื้นที่ตามจริงแล้ว จะทำให้เราตัด หรือ ขยับขนาดการใช้สอยแต่ละห้องได้อย่างเหมาะสม เพราะเมื่อมีห้องเกินความจำเป็นการใช้งานก็หมายถึงความเทอะทะไม่ทันสมัยรวมไปถึงงบประมาณที่บานปลายยากต่อการควบคุม
4. ทราบสมาชิกและความต้องการ
เป็นเรื่องที่จำเป็นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าข้ออื่น ๆ เพราะสมาชิกที่มีความต้องการเฉพาะจะมีผลต่อการออกแบบบ้านเป็นอย่างมาก เช่น หากวางแผนว่าอนาคตจะต้องมีเจ้าตัวเล็กเพิ่ม การออกแบบบ้านก็ต้องเอื้อต่ออุปกรณ์เครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หรือ หากบ้านนั้นมีผู้สูงอายุ การออกแบบบ้านนั้น ก็ต้องเหมาะสมกับกายอุปกรณ์หรือเครื่องมือเพื่อสนับสนุนการรักษาที่ทันสมัยในเวลานั้น ๆ เป็นต้น
5. งบประมาณ
เพื่อให้เราสามารถไปต่อระหว่าง สิ่งที่คิด กับ สิ่งที่ได้ นั่นก็คือ การตั้งงบประมาณ ซึ่งเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่าในหลาย ๆ ส่วน กว่าจะเป็นบ้านนั้น ยิ่งเลือกใช้วัสดุที่ผ่านการทดสอบที่ได้มาตรฐานย่อมมีราคาที่ต้องจ่ายมากกว่า รวมไปถึงการเลือกวัสดุการตกแต่งต่าง ๆ หากต้องการความทันสมัย ก็ต้องมีงบประมาณรองรับในส่วนนี้เช่นกัน
6. ลองวาดแบบเอง
ขั้นตอนนี้จะตอบโจทย์และเห็นความเป็นไปได้มากที่สุด ส่วนนี้สามารถเลือกวิธีการวาดแบบ ได้ตามถนัด อาจจะลงแบบเองบนกระดาษตามสัดส่วนที่เราได้สำรวจพื้นที่ตามขั้นตอนที่ 1 หรือ ลงแบบกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แอปพลิเคชั่นตามสะดวก สิ่งที่จะเห็นชัดคือ จำนวนห้อง ตำแหน่ง การใช้สอย ที่เหมาะสม สอดคล้องกับทิศทางธรรมชาติเพื่อความไม่สิ้นเปลืองพลังงานรวมไปถึง สามารถมองเห็นถึงวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ที่เราอาจนำมาใช้ในแต่ละห้องเพื่อความทันสมัยได้เช่นกัน
7. วัสดุก่อสร้าง
การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างในแต่ละส่วนของห้องนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรศึกษาไว้เพื่อรับทราบความเฉพาะต่อการใช้งาน งบประมาณ และเทคโนโลยีต่าง ๆ คุณสมบัติพิเศษ ที่เอื้อต่อการสร้างบ้านของเราได้ แม้ไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด แต่ควรมีข้อมูลไว้เพื่อประโยชน์ของเราเอง
8. หาที่ปรึกษา
หากเป็นการสร้างด้วยตัวเองควรนำแบบที่เราลองวาดเองปรึกษากับช่างหรือผู้ที่มีประสบการณ์การสร้างบ้าน เพื่อให้เห็นถึงความเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้ต้องใช้หลักคิดวิเคราะห์แยกแยะเป็นพิเศษ เพราะนอกจากต้องเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือแล้ว จะต้องเป็นผู้ที่มีการอัปเดตเทรนด์การก่อสร้างอยู่ตลอดเวลาด้วย
9. ปรึกษาบริษัทรับสร้างบ้าน
หากเป็นบ้านที่ตั้งใจสร้างด้วยบริษัทรับสร้างบ้านก็ถือเป็นทางลัดในหลาย ๆ ขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้น เพราะนอกจากจะมีผู้เชี่ยวชาญที่ขมวดความต้องการของเราอย่างครบถ้วนแล้ว เรายังได้บ้านที่ทันสมัยจากทีมที่มีข้อมูลอัปเดตของผู้ค้าวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ มากมายให้เราเลือกใช้สอยได้ตามงบประมาณของเราได้นั่นเอง
10. หมั่นหาข้อมูล
เมื่อต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับบ้านของเราแล้ว การหาข้อมูลดูแบบบ้านต่าง ๆ ผ่านงานแสดงสินค้า นิตยสาร คลิปต่าง ๆ ทั้งของในประเทศ และต่างประเทศ ก็เป็นการเปิดโลกทัศน์ข้อดีข้อเสีย มาปรับใช้เหมาะกับบ้านในฝันที่เราต้องการได้เช่นกัน
เราเชื่อว่าการสร้างบ้านหนึ่งหลังไม่ใช่แค่เพื่อการอยู่อาศัย แต่เป็นการสานฝันของทุกคนในครอบครัว และการสร้างบ้านหนึ่งหลังไม่ใช่แค่สะสมเป็นทรัพย์สินเท่านั้นแต่ต้องเป็นมรดกเพื่อคนรุ่นหลังได้ด้วย การสร้างบ้านจึงต้องเผื่ออายุการใช้งานที่ยั่งยืนทันสมัยไม่ตกเทรนด์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ HBA ให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน
เรายังมีบทความอีกมากมายเพื่อแบ่งปันกับผู้ที่อยากมีบ้านได้อ่านกัน จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นฝากติดตามกันได้ใน สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA) ค่ะ
สนับสนุนบทความโดย
บริษัท คลีนิคโฮม (ประเทศไทย) จำกัด
ที่อยู่ : 16-18 หมู่ 16 ถนน หทัยราษฎร์ ซอย ตรงข้ามหทัยราษฎร์ ซอย1, Min Buri, Thailand, Bangkok
โทรศัพท์ : 094-663-5597,063-795-4965
อีเมล : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
เว็บไซต์ : www.clinichomethailand.com