ติดตั้ง Solar Roof อย่างไรให้คุ้มค่าในระยะยาว
ในยุคที่ค่าไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายครัวเรือนหันมาสนใจ Solar Roof หรือหลังคาโซลาร์เซลล์เป็นทางเลือกในการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน แต่ด้วยการลงทุนครั้งแรกที่เป็นค่าใช้จ่ายสูง ทำให้หลายคนยังลังเล ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะติดหรือไม่ วันนี้สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ขออาสามาแนะนำวิธีการติดตั้ง Solar Roof ให้คุ้มค่าในระยะยาว
ศึกษาศักยภาพของบ้านก่อนตัดสินใจ
ก่อนติดตั้ง Solar Roof สิ่งแรกที่ต้องประเมินคือศักยภาพของบ้านในการรับแสงแดด บริษัทรับออกแบบบ้านมืออาชีพแนะนำให้สำรวจทิศทางของหลังคา โดยหลังคาที่หันหน้าไปทางทิศใต้จะได้รับแสงแดดมากที่สุดตลอดวัน ส่วนทิศตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงใต้ก็เป็นทิศที่ให้ประสิทธิภาพที่ดีรองลงมา
มุมเอียงของหลังคาเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ในประเทศไทยที่อยู่ละติจูด 13-20 องศาเหนือ มุมเอียงที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 15-25 องศา หากหลังคาบ้านของคุณเป็นหลังคาเพิงหรือเอียงน้อยเกินไป อาจต้องติดตั้งโครงรองเพื่อปรับมุมให้เหมาะสม
พื้นที่หลังคาที่ไม่มีสิ่งบดบัง เช่น ต้นไม้ใหญ่ เงาจากอาคารสูง หรือป้ายโฆษณา พื้นที่หลังคาส่วนที่รับแสงแดดควรมีอย่างขนาดน้อย 20-30 ตารางเมตร สำหรับติดตั้งระบบขนาด 3-5 กิโลวัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับบ้านขนาดกลาง
คำนวณขนาดระบบที่เหมาะสม
การคำนวณขนาดระบบ Solar Roof ให้เหมาะสมต้องเริ่มจากการศึกษาพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือน ดูจากบิลไฟฟ้า 12 เดือนย้อนหลังว่าใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยเท่าไร
• บ้านขนาดเล็ก 1-2 ห้องนอน ใช้ไฟฟ้าประมาณ 200-350 หน่วยต่อเดือน
เหมาะกับระบบขนาด 2-3 กิโลวัตต์ ต้นทุนประมาณ 100,000-150,000 บาท
• บ้านขนาดกลาง 2-3 ห้องนอน ใช้ไฟฟ้าประมาณ 350-500 หน่วยต่อเดือน
เหมาะกับระบบขนาด 3-5 กิโลวัตต์ ต้นทุนประมาณ 150,000-250,000 บาท
• บ้านขนาดใหญ่ 3-4 ห้องนอนขึ้นไป ใช้ไฟฟ้าประมาณ 500-800 หน่วยต่อเดือน
เหมาะกับระบบขนาด 5-8 กิโลวัตต์ ต้นทุนประมาณ 250,000-400,000 บาท
บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพมักแนะนำให้ติดตั้งระบบที่ครอบคลุมการใช้ไฟฟ้าประมาณ 80-90% เท่านั้น เพราะต้นทุนจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณสำหรับ 10-20% สุดท้าย และผลตอบแทนจะลดลง
เหตุผลของการจำกัดขนาดระบบนี้มีหลายประการ เมื่อระบบ Solar Roof ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าการใช้งานจริง ไฟฟ้าส่วนเกินจะถูกส่งกลับเข้าระบบของการไฟฟ้า (Grid Tie System) แต่อัตราการซื้อคืนของการไฟฟ้าจะต่ำกว่าอัตราขายให้ผู้บริโภคมาก ปัจจุบันการไฟฟ้าซื้อคืนไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟในอัตรา 2.20 บาทต่อหน่วย ขณะที่ขายให้ผู้บริโภคในอัตรา 4-6 บาทต่อหน่วย
นอกจากนี้ การเพิ่มขนาดระบบจาก 5 เป็น 7 กิโลวัตต์ อาจต้องเปลี่ยนระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เพิ่มขนาดสายไฟหลัก ติดตั้งมิเตอร์แบบสองทิศทาง และอาจต้องขออนุญาตพิเศษจากการไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
การคำนวณ Return on Investment (ROI) จะแสดงให้เห็นชัดว่า ระบบขนาด 3 กิโลวัตต์ที่ตอบโจทย์ 80% ของการใช้ไฟฟ้า จะมีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 6-7 ปี ส่วนระบบขนาด 5 กิโลวัตต์ที่ตอบโจทย์ 120% จะมีระยะเวลาคืนทุนนานขึ้นเป็น 9-11 ปี ทั้งที่ลงทุนเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว
เลือกอุปกรณ์คุณภาพดี
คุณภาพของอุปกรณ์ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน สำหรับแผงโซลาร์เซลล์ ควรเลือกแบบ Monocrystalline Silicon ที่มีประสิทธิภาพสูง 18-22% และมีการรับประกัน 20-25 ปี แบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับ เช่น LG, Panasonic, Canadian Solar หรือ JA Solar
อินเวอร์เตอร์เป็นหัวใจสำคัญที่แปลงกระแสไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ให้ใช้งานได้ ควรเลือกแบบที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า 95% และมี Maximum Power Point Tracking (MPPT) ที่ดี แบรนด์ชั้นนำ เช่น SMA, Fronius, ABB หรือ Huawei
ระบบติดตั้งและสายไฟต้องทนทานต่อสภาพอากาศไทย โดยเฉพาะความชื้นและแสงแดดจัด ควรใช้อะลูมิเนียมอัลลอยสำหรับโครงรองและสายไฟแบบ DC Solar Cable ที่มีฉนวนหนา
วางแผนการเงินและผลตอบแทน
การวิเคราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุน Solar Roof ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ในประเทศไทย ระบบโซลาร์เซลล์บ้านเรือนสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 4-5 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อกิโลวัตต์ต่อวัน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและสภาพอากาศ
ระบบขนาด 5 กิโลวัตต์จะผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 20-25 หน่วยต่อวัน หรือ 600-750 หน่วยต่อเดือน หากอัตราค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 4-5 บาทต่อหน่วย จะประหยัดได้เดือนละ 2,400-3,750 บาท หรือปีละ 28,800-45,000 บาท
ด้วยต้นทุนระบบ 5 กิโลวัตต์ประมาณ 250,000 บาท คุณจะคืนทุนได้ภายใน 6-9 ปี หลังจากนั้นจะเป็นผลกำไรสุทธิตลอดอายุการใช้งาน 25-30 ปี
การบำรุงรักษาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
Solar Roof ที่ติดตั้งถูกต้องต้องการการบำรุงรักษาน้อยมาก แต่การดูแลเบื้องต้นจะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์ด้วยน้ำสะอาดทุก 2-3 เดือน หรือหลังจากมีฝุ่นละอองหนา หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีหรือแปรงหยาบที่อาจขูดข่วนพื้นผิว
ตรวจสอบสายไฟและข้อต่อต่างๆ ทุก 6 เดือน ดูว่ามีการหลวมหรือชำรุดหรือไม่ หากพบปัญหาควรติดต่อช่างเทคนิคทันที
ติดตั้งระบบ Monitoring เพื่อติดตามประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ หากพบว่าประสิทธิภาพลดลงผิดปกติ จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
เลือกผู้ติดตั้งที่เชื่อถือได้
การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพที่มีประสบการณ์ด้าน Solar Roof เป็นปัจจัยสำคัญ ควรเลือกผู้ติดตั้งที่มีใบอนุญาตจากกรมพลังงานทางเลือกและอนุรักษ์พลังงาน มีผลงานการติดตั้งที่ผ่านมาจำนวนมากพอที่จะมีประสบการณ์ในการติดตั้งและการแก้ปัญหาหน้างาน
สนับสนุนบทความโดย
บริษัท บ้านมหานคร จำกัด
ที่อยู่ : ตั้งอยู่เลขที่ 1/1 ซอย เคหะร่มเกล้า 74 แยก 4 แขวง ราษฎร์พัฒนา เขต สะพานสูง จังหวัด กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10240
โทรศัพท์ : 0953699584
อีเมล : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
เว็บไซต์ : https://www.bahnmahanakorn.com/