บริษัท รับสร้างบ้าน

ออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร.FM 106 เมกะเฮิรตซ์   ออกอากาศสด ทุกวันอาทิตย์ ในช่วงระหว่างเวลา   14.00 นาฬิกา สัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์ (ประมาณ21 นาที)

สัมภาษณ์ : คุณวิบูล จันทรดิลกรัตน์

ตำแหน่ง : กรรมการกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน

ประเด็น  : ทำความเข้าใจกับการปลูกสร้างบ้าน

• ลงพื้นที่ตรวจสอบผลงานในอดีต/ลงพื้นที่ตรจวจสอบไซต์งานสม่ำเสมอเพื่อให้ได้บ้านตรงตามความต้องการ
• เปรียบเทียบผู้รับเหมาหลายราย/เลือกผู้รับเหมาให้เหมาะสมกับงานและราคา
• พูดคุยให้เข้าใจตรงกัน/ทำสัญญาอย่างชัดเจน ป้องกันปัญหาข้อพิพาท
• ระบุค่างวดในสัญญาอย่างชัดเจนและควรซอยค่างวดถี่ๆ/เงินที่ชำระควรสอดคล้องหรือใกล้เคียงกับผลงานที่ทำ

ในชีวิตของคนคนหนึ่งคุณอาจมีบ้านหรือที่อยู่อาศัยได้พียงครั้งเดียว ด้วยเหตุนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในการหาข้อมูล เปรียบเทียบ และลงลึกในรายละเอียดทำความเข้าใจในด้านต่างๆ เพื่อให้ได้บ้านในฝันดั่งที่หวังหรือตั้งใจและเมื่อการปลูกสร้างบ้านตั้งอยู่บนความคาดหวังของผู้บริโภค คุณวิบูล จันทรดิลกรัตน์ กรรมการกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้เล่าว่า เนื่องจากว่าในการปลูกสร้างบ้านของผู้รับเหมาก่อสร้างแต่ละรายอาจมีความถนัดหรือมีรูปแบบในการรับปลูกสร้างบ้านที่แตกต่างกันทั้งระดับราคา  ขนาดของตัวบ้าน และสไตล์ของบ้าน ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง และเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ผู้ว่าจ้าง(ผู้บริโภค) จะต้องมีการพูดคุยหรือตกลงกันในรายละเอียดให้ชัดเจน รวมถึงลงไปตรวจสอบและคอยดูความคืบหน้าด้านการก่อสร้างเป็นระยะ ๆเพื่อให้ได้บ้านดังที่หวังไว้

นอกจากนี้ ก่อนจะตัดสินใจว่าจ้างผู้รับเหมารายใดปลูกสร้างบ้านให้ควรมีการเปรียบเทียบและเลือกที่ตรงใจมากที่สุด ซึ่งในการหาผู้รับเหมานั้น ส่วนใหญ่เลือกจากการแนะนำของคนรู้จัก ทั้งจากเพื่อนๆ หรือ ญาติพี่น้อง ที่เคยปลูกสร้างบ้านมาก่อน ส่วนอีกหนึ่งทางเลือกก็คือ การหาผู้รับเหมาด้วยตัวเอง เช่น หาผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งหากยังไม่สามารถหาผู้รับเหมาได้ ผู้บริโภคสามารถเข้าไปดูหรือค้นหาข้อมูลได้ที่สมาคมธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ด้วยการเข้าเว็บไซต์ www.hba-th.org จากนั้นก็เข้าไปที่หัวข้อ “ทำเนียบสมาชิก”ก็จะเห็นรายชื่อของบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน

ส่วนในเรื่องของการทำสัญญานั้น คุณวิบูล ยังแนะว่าควรกรอกข้อมูลให้ละเอียดและชัดเจนทั้งสองฝ่าย และควรมีการระบุค่างวดในแต่ละงวดที่ชัดเจนพร้อมรายลเอียดของงาน นอกจากนี้ควรซอยค่างวดงานถี่ๆเงินที่ชำระควรสอดคล้องหรือใกล้เคียงกับผลงานที่ทำ 

ทั้งนี้ หากระหว่างการก่อสร้างผู้ว่าจ้างมีความต้องการที่จะเปลี่ยนรูปแบบบ้านไปจากเดิมที่ตกลงกันไว้ ซึ่งก็สามารถที่จะทำได้เช่นกัน (ขึ้นอยู่กับว่าการก่อสร้างถึงขั้นตอนไหน) ในกรณีที่อยู่ในขั้นตอนที่สามารถปรับแก้ได้ การแก้ไขเพิ่มเติมย่อมมีค่าใช้จ่าย และการนำกลับมาแก้ไขเปลี่ยนแปลงใหม่อาจทำให้เกิดความล่าช้าออกไปอีก ดังนั้น ทั้งผู้ว่าจ้าง(ผู้บริโภค)และผู้รับเหมาจะต้องมีการตกลงกันและทำเป็นลายลักษณ์อักษร มีการลงชื่อรับรู้กันทั้งสองฝ่าย เพื่อป้องกันปัญหาฟ้องร้องกันในอนาคต...