กรณีที่ต้องการจะปลูกสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินของตนเอง หรือบนที่ดินจัดสรร ธนาคารต่างๆจะพิจารณาตามลักษณะที่อยู่อาศัย และความสามารถในการผ่อนชำระคืน โดยดูจาก อาชีพ รายได้ และมูลค่าของหลักประกัน รวมทั้งราคาประเมินของอาคาร และงบประมาณการปลูกสร้าง ผู้กู้จะต้องเตรียมเอกสารการกู้ให้พร้อม เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส เอกสารแสดงรายได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน สมุดบัญชีย้อยหลัก 6 เดือน เป็นต้น นอกจากนั้นก็ต้องเตรียมเอกสารหลักประกัน เช่น สำเนาโฉนดทีดิน แบบแปลนปลูกสร้าง สัญญาว่าจ้าง ใบอนุญาต ก่อสร้าง เป็นต้น
ส่วนระยะเวลาการผ่อนชำระ ในปัจจุบัน แต่ละธนาคารจะมีระยะเวลาให้เลือกตั้งแต่ 10, 15, 20, 25และ 30 ปีตามแต่ผู้กู้จะมีกำลังในการผ่อนชำระ แต่ผู้กู้มีความสามารถที่จะชำระคืนเงินกู้ได้เร็วที่สุด ก็ยิ่งดี เพราะจะทำให้ผู้กู้เป็นอิสระจากหนี้เร็วขึ้น และจะเป็นเจ้าของบ้านที่อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ผู้กู้บางท่านที่ต้องการวงเงินกู้ค่อนข้างสูง ในขณะที่ความสามารถในการผ่อนชำระค่อนข้างต่ำ ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็จำเป็นต้องขยายเวลากู้ออกไปให้นานที่สุด เป็น 25-30 ปี เพื่อที่จะให้เงินงวดลดลงจนถึงจุดที่สามารถผ่อนชำระได้ สำหรับผู้ที่ปัจจุบันมีกำลังจะผ่อนเงินงวดได้ในระยะเวลา 15 ปี หรือ 20 ปี แต่หากเล็งเห็นว่า ในอนาคตอันใกล้ตนเองอาจมีภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวสูงขึ้น เช่น อาจมีบุตรเพิ่มขึ้น เป็นต้น อาจจะทำให้การเงินฝืดเคืองหรือมีปัญหาการผ่อนชำระได้ หากรู้สึกเช่นนี้ เพื่อความสบายใจ และปลอดภัยไว้ก่อน จึงอาจขยายระยะเวลาการกู้ออกไปให้นานที่สุดคือเป็น 25 - 30 ปี ก็ได้ เพื่อจะได้ผ่อนเงินงวดให้น้อยที่สุดก่อน และหากต่อมาในภายหลัง ตนเองและครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็สามารถชำระเงินงวดเพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้เดิมก็ได้ เช่น แทนที่จะผ่อนเดือนละ 7,718 บาท ก็อาจจะผ่อนเดือนละ 10,000 บาท หรือมากกว่าก็ได้ ซึ่งจะทำให้หนี้เงินกู้หมดเร็วขึ้น ดังนั้น เงินกู้ตามสัญญาเดิม 25 ปี ก็อาจจะผ่อนหมดในเวลาสั้นลง เช่นเหลือเพียงประมาณ 10 ปี เท่านั้น
วงเงินในการกู้และคุณสมบัติผู้กู้ ในปัจจุบันแต่ละธนาคารจะมีความคล้ายกันคือ
- ในกรณีที่เป็นเจ้าของที่ดินอยู่แล้วจะได้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของค่าจ้างปลูกสร้าง
- กู้ซื้อที่ดินและสร้างบ้านพร้อมกันจะได้วงเงินกู้รวมสูงสุด 90% ของราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในกรณีนี้เงื่อนไขในแต่ละธนาคารจะมีลายละเอียดเพิ่มเติม
- บุคคลธรรมดา สัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี
- พนักงานประจำ อายุงานรวมที่ทำงานเดิมและปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 2 ปี
- ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประกอบธุรกิจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี
- ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้กู้ (ยกเว้นกรณีคู่สมรสไม่จดทะเบียน)
นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าประเมินหลักประกัน (ขึ้นอยู่กับวงเงินที่กู้) ค่าตรวจสอบผลงานการก่อสร้าง ค่าดำเนินการเพื่อขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมจำนอง ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ส่วนใหญ่จะอยู่หลักพันบาทเท่านั้น แต่ทั้งนี้เพื่อความกระจ่างหรือเพื่อเตรียมความพร้อม เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆเหล่านี้อย่าลืม ! สอบถามจากเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารที่ท่านติดต่อนะครับ