หนึ่งในปัญหาค่าใช้จ่ายที่มักได้ยินคนรอบข้างพูดถึงตลอด คือ ค่าไฟฟ้า ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี จากเดิมที่เคยจ่ายเดือนละ 2,000-3,000 บาท วันนี้หลายบ้านต้องจ่ายไฟเพิ่มขึ้นอีกหลายบาทต่อเดือน ทำให้ค่าไฟฟ้ากลายเป็นภาระใหญ่ของครัวเรือน ในเมื่อความต้องการใช้ไฟฟ้าก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แข่งกับอากาศที่ร้อนขึ้นทุกปี ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าค่าไฟฟ้าจะยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกหลายปี

เทคโนโลยีอัจฉริยะจึงเป็นตัวเลือกที่ถูกนำมาช่วยลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดังนั้นการเลือกใช้ Gadgets อัจฉริยะที่เหมาะสมจึงสามารถช่วยประหยัดเงินได้อย่างเห็นได้ชัด สำหรับคนที่กำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้านหรือกำลังวางแผนการสร้างบ้านใหม่ การเตรียมความพร้อมด้านระบบประหยัดพลังงานตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้รวบรวม 10 Gadgets ที่ทำให้บ้านของคุณประหยัดพลังงานได้จริง มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1. สมาร์ทเทอร์โมสตัท (Smart Thermostat)

อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติที่สามารถเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของคุณ ช่วยปรับอุณหภูมิตามความต้องการจริง ลดการใช้พลังงานของระบบปรับอากาศได้ถึง 23% เครื่องนี้จะจดจำว่าคุณชอบอุณหภูมิเท่าไหร่ช่วงเวลาไหน และปรับให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เช่น ลดอุณหภูมิลงเมื่อไม่มีคนในบ้าน หรือเริ่มปรับอุณหภูมิก่อนคุณกลับจากที่ทำงาน ยังสามารถตั้งค่าผ่านมือถือจากที่ไหนก็ได้ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องลืมปิดแอร์ บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพ แนะนำให้ติดตั้งตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้างเพื่อการวางสายไฟที่เหมาะสม

2. หลอดไฟ LED อัจฉริยะ (Smart LED Bulbs)

หลอดไฟที่สามารถควบคุมความสว่างและเปลี่ยนสีได้ผ่านแอปพลิเคชัน ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟธรรมดา 75% และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 25 เท่า คุณสามารถตั้งโปรแกรมให้ไฟเปิด-ปิดตามเวลาที่กำหนด หรือปรับความสว่างตามกิจกรรมต่างๆ เช่น ไฟสว่างเต็มที่ตอนทำงาน หรือไฟนวลตอนผ่อนคลาย สีแสงที่หลากหลายยังช่วยลดอาการปวดหัวและเพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับ ทำให้คุณไม่ต้องเปิดไฟจำนวนมากพร้อมกัน

3. ปลั๊กอัจฉริยะ (Smart Plugs)

อุปกรณ์ที่สามารถควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าจากระยะไกลได้ พร้อมฟีเจอร์ตั้งเวลาและวัดปริมาณการใช้พลังงาน ช่วยลดการใช้พลังงานแบบสแตนบายได้ถึง 10% แค่เสียบปลั๊กอัจฉริยะเข้าไปในปลั๊กไฟธรรมดา แล้วเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าต่อเข้าไป คุณก็สามารถควบคุมการใช้งานผ่าน Application บนมือถือได้ทันที เหมาะสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มักลืมปิด เช่น พัดลม เครื่องชาร์จ เครื่องต้มน้ำ หรือเครื่องเล่นเกม ยังสามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าตามความต้องการ เช่น ตั้งให้เครื่องทำน้ำอุ่นเปิดก่อนเวลาอาบน้ำ

4. ผ้าม่านอัตโนมัติ (Automated Curtains)

ระบบผ้าม่านที่เปิด-ปิดอัตโนมัติตามแสงธรรมชาติ ช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านได้ดี ลดการใช้เครื่องปรับอากาศได้ 15-20% ระบบนี้ทำงานผ่านเซนเซอร์แสงที่จะเปิดม่านเมื่อแสงแดดไม่แรง เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามา และปิดม่านเมื่อแสงแดดจัดเกินไป เพื่อกั้นความร้อน นอกจากนี้คุณยังสามารถตั้งโปรแกรมให้ม่านเปิด-ปิดตามเวลา เช่น เปิดม่านตอนเช้าเพื่อปลุก หรือปิดม่านตอนกลางคืนเพื่อความเป็นส่วนตัว การควบคุมแสงและอุณหภูมิแบบอัตโนมัติจะช่วยให้บ้านเย็นสบายตลอดวัน โดยไม่ต้องพึ่งแอร์มากเกินไป 

5. ระบบรดน้ำต้นไม้อัจฉริยะ (Smart Irrigation System)

เซนเซอร์ที่วัดความชื้นในดินและสภาพอากาศ ปรับการรดน้ำให้เหมาะสมกับความต้องการของพืช ประหยัดน้ำได้ถึง 30% และลดการใช้พลังงานของปั๊มน้ำ ระบบนี้จะตรวจสอบสภาพอากาศแบบ​ realtime ว่าฝนจะตกหรือไม่ หยุดการรดน้ำอัตโนมัติหากคาดว่าจะมีฝนตก และปรับปริมาณน้ำตามความต้องการของพืชแต่ละชนิด ยังสามารถตั้งค่าให้รดน้ำในช่วงเวลาที่อัตราค่าไฟฟ้าถูกที่สุด เช่น ช่วงกลางคืน หรือช่วงเช้ามืด ทำให้คุณมีสวนสวยแบบประหยัดต้นทุนและยั่งยืน

6. พัดลมเพดานอัจฉริยะ (Smart Ceiling Fans)

พัดลมที่ปรับความเร็วอัตโนมัติตามอุณหภูมิและความชื้น ช่วยหมุนเวียนอากาศได้ดี ลดการใช้เครื่องปรับอากาศได้ 40% พัดลมรุ่นใหม่มีเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและอุณหภูมิ จะเปิดให้ความเร็วเหมาะสมเมื่อมีคนเข้ามาในห้อง และหยุดทำงานเมื่อไม่มีคนในห้อง ยังสามารถทำงานร่วมกับเครื่องปรับอากาศ ช่วยกระจายอากาศเย็นไปทั่วห้องได้ดีกว่า ทำให้คุณสามารถตั้งอุณหภูมิแอร์สูงขึ้น 3-4 องศา แต่ยังรู้สึกเย็นสบาย

7. ระบบจัดการพลังงานบ้าน (Home Energy Management System)

ระบบที่ตรวจสอบและควบคุมการใช้พลังงานของทุกอุปกรณ์ในบ้าน แสดงข้อมูลการใช้พลังงานแบบ realtime และแนะนำวิธีการประหยัดพลังงาน ระบบนี้จะวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของคุณ และบอกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวไหนกินไฟมากที่สุด ช่วงเวลาไหนใช้ไฟฟ้าสูงสุด คุณสามารถเห็นค่าไฟฟ้าแบบผ่าน Application และได้รับแจ้งเตือนเมื่อการใช้พลังงานสูงผิดปกติ ระบบยังแนะนำวิธีการปรับปรุงการใช้พลังงาน เช่น แนะนำให้ใช้เครื่องซักผ้าในช่วงราคาไฟฟ้าถูก หรือเตือนเมื่อมีเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานโดยไม่จำเป็น

8. เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Sensors)

อุปกรณ์ที่เปิด-ปิดไฟอัตโนมัติเมื่อมีคนเดินผ่าน ป้องกันการลืมปิดไฟ ประหยัดพลังงานได้ 30-50% ในพื้นที่ที่ใช้งานไม่ถี่ เช่น ห้องน้ำ ห้องเก็บของ เซนเซอร์รุ่นใหม่มีความไวในการตรวจจับที่ปรับได้ไม่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก และสามารถปรับระยะเวลาการปิดไฟได้ตามการใช้งาน ติดตั้งง่ายโดยไม่ต้องเปลี่ยนสายไฟ เหมาะสำหรับบริเวณทางเดิน บันได โรงรถ หรือบริเวณที่ต้องการความปลอดภัยในการส่องสว่างตอนกลางคืน ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านด้วยการเปิดไฟอัตโนมัติเมื่อมีคนเข้ามาใกล้

9. ระบบโซลาร์เซลล์ขนาดเล็ก (Mini Solar Panels)

แผงโซลาร์เซลล์สำหรับใช้งานเฉพาะจุด เช่น ไฟสวน ไฟรั้ว หรือระบบรปิดน้ำ ช่วยลดการใช้พลังงานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้

10. ระบบควบคุมการใช้น้ำอัจฉริยะ (Smart Water Management)

เซนเซอร์ตรวจจับการรั่วไหลของน้ำ พร้อมระบบควบคุมการใช้น้ำที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดการใช้พลังงานในการสูบน้ำและทำน้ำอุ่นได้ ระบบนี้จะตรวจสอบการใช้น้ำ และแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีการรั่วไหลหรือการใช้น้ำผิดปกติ ช่วยป้องกันปัญหาน้ำรั่วที่อาจทำให้ค่าน้ำและค่าไฟฟ้าพุ่งสูง และยังสามารถตั้งค่าการทำน้ำอุ่นให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง เช่น ทำน้ำอุ่นเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องใช้ หรือปรับอุณหภูมิตามฤดูกาล การควบคุมการใช้น้ำที่ดีจะช่วยลดค่าใช้จ่ายทั้งค่าน้ำและค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการสูบน้ำและทำน้ำอุ่น

บทสรุป

การเลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อประหยัดพลังงานไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพ ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีเพื่อประหยัดพลังงานจะทำให้คุณได้บ้านที่มีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวหากคุณสนใจการสร้างบ้านอัจฉริยะที่ประหยัดพลังงาน แนะนำให้ปรึกษาบริษัทรับสร้างบ้าน ที่เป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เพื่อขอคำแนะนำการรับออกแบบบ้าน ที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณ