การสร้างบ้านเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ แต่หลายคนก็ฝันจะได้ลงทุนสักครั้ง เพื่อความคุ้มค่าของการลงทุน การวางรากฐานที่ดีตั้งแต่ต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นการจะสร้างบ้านดีๆ สักหลังจึงจำเป็นต้องมีสถาปนิก ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด ที่จะช่วยแปลงความต้องการของเจ้าของบ้านออกมาเป็นแบบแปลนที่สมบูรณ์บนพื้นฐานของความเป็นไปได้อย่างมีมาตรฐาน
เพราะการออกแบบบ้านที่ใช้ทฤษฎีคิดแบบไปสร้างไปตามความต้องการของเจ้าของ คงเป็นไปได้ยากที่บ้านจะเสร็จสมบูรณ์...มาดูกันว่าสถาปนิกมีความสำคัญอย่างไรกับงานสร้างบ้านบ้าง
บ้านมีมาตรฐานความปลอดภัย
สถาปนิกคือผู้มีความเข้าใจมาตรฐานการก่อสร้างอาคาร สามารถวางแผนการสร้างและเลือกใช้วัสดุที่เหมาะกับงานได้อย่างมีมาตรฐาน การว่าจ้างผู้รับเหมาแทนการใช้สถาปนิก และควบคุมงานก่อสร้างเองจะมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของโครงสร้างบ้าน การใช้วัสดุที่ไม่มีมารตฐาน รวมถึงปัญหาจากงานสร้างจุกจิกตามมาภายหลัง
เป็นเพื่อนคู่คิดตั้งแต่ต้นจนจบ
เจ้าของบ้านที่เลือกสร้างบ้านโดยมีสถาปนิกเป็นผู้ช่วย สามารถวางใจได้ว่าจะมีคนคอยช่วยแบ่งเบาภาระขั้นตอนงานสร้าง เสมือนมีเพื่อนคู่คิด โดยสถาปนิกจะทำงานออกแบบควบคู่ไปกับการปรึกษาหารือกับเจ้าของบ้านอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การวางแนวคิดการออกแบบ แนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน เพื่อประกอบการตัดสินใจที่ดีที่สุด รวมถึงการเป็นสื่อกลางบอกความต้องการของเข้าของบ้านกับผู้เกี่ยวข้องกับงานสร้างส่วนต่างๆ ด้วย
ทำให้เห็นภาพรวมของงบประมาณ
การจ้างสถาปนิกนอกจากจะวางใจเพราะงานสร้างที่ออกมาดี แบบไม่เพื้ยนแล้ว ยังสามารถเห็นภาพรวมของงบประมาณ ราคากลางของค่าก่อสร้างอย่างละเอียด ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถนำไปเปรียบเทียบราคาเองได้ ในขณะที่การจ้างผู้รับเหมาด้วยตัวเองอาจมีโอกาสที่เจ้าของบ้านจะถูกเอาเปรียบเรื่องราคาค่าวัสดุ หรืองานก่อสร้างที่แพงเกินจริง
สถาปนิกให้มากกว่าแบบบ้าน
นอกจากการออกแบบบ้านที่เป็นไปตามความต้องการของเจ้าของบ้าน การได้พูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดกับสถาปนิกสำหรับงานออกแบบ เจ้าของบ้านยังได้พัฒนาองค์ความรู้ทางการออกแบบ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวัสดุก่อสร้างใหม่ๆ รวมถึงอัพเดตเทรนด์แบบบ้านในช่วงนั้นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจหรือการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมที่สุด ตรงใจเจ้าของบ้านมากที่สุด แต่ยังคงอยู่บนพื้นฐานงานสร้างที่มีมาตรฐาน
แบบบ้านที่คำนึงถึงผลประโยชน์ระยะยาว
แบบบ้านโดยสถาปนิกจะถูกออกแบบให้สอดคล้องกับพื้นที่และสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องขง ลม ฟ้า อากาศ หากสร้างบ้านให้เหมาะกับทิศทางลมและแสงแดด จะช่วยเพิ่มประโยชน์ในการใช้สอยพื้นที่ในบ้านมากขึ้น ทำให้เจ้าของบ้านอยู่ได้อย่างสะดวกสบาย และประหยัดพลังงานด้วย