บริษัท รับสร้างบ้าน

บริษัทรับสร้างบ้าน รับสร้างบ้าน สร้างบ้าน สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน

7 แนวทางออกแบบบ้านเพื่อสัตว์เลี้ยงอยู่สบาย แฮปปี้ทั้งคนทั้งสัตว์

21
เม.ย.
2566



Love me love my dog วลีประจำใจของหลายๆ คน บางครอบครัวสัตว์เลี้ยงมีความหมายและมีความสำคัญประหนึ่งเป็นสมาชิกสำคัญของบ้าน ดังนั้นเมื่อคิดจะสร้างบ้านใหม่ ก็ย่อมอยากคิดเผื่อบรรดาสัตว์เลี้ยงที่อยู่ร่วมกันในบ้านด้วย ซึ่งหากใช้บริการ บริษัทรับสร้างบ้าน จะสามารถออกแบบบ้านเพื่อหาพื้นที่ตรงกลางที่ทำให้อยู่ร่วมกันกับสัตว์เลี้ยงได้อย่างมีความสุข ถูกสุขลักษณะและห่างไกลโรคของสัตว์เลี้ยง สำหรับแนวทางการออกแบบบ้านเพื่อสัตว์เลี้ยงอยู่สบาย แฮปปี้ทั้งคนทั้งสัตว์นั้น มีแนวทางอย่างไรบ้าง สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านได้รวบรวม 7 แนวทางเบื้องต้นมาฝากกัน

ปัจจัยการออกแบบบ้านเพื่อให้สัตว์เลี้ยงอยู่ได้


1. คำนึงถึงอุณหภูมิและความชื้นภายในบ้านที่เหมาะสมกับทั้งคนและสัตว์เลี้ยง

สุนัข แมวหรือสัตว์ประเภทต่างๆ มีลักษณะพิเศษตามสายพันธุ์ ที่ทนความร้อนในอากาศเมืองไทยได้ไม่เท่ากัน เพราะบางตัวมีขนเยอะต้องอยู่ในอากาศที่มีอุณหภูมิเย็นสบาย หากปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่อับ อากาศไม่ถ่ายเทนานจนเกินไป หรืออยู่ในที่ที่โดนแสงแดดนานๆ อาจจะเป็นโรคลมแดด (Heat stroke) ได้

โดยช่วงอุณหภูมิอากาศและความชื้นสัมพัทธ์ที่สัตว์เลี้ยงรู้สึกสบาย อยู่ที่ 20-29 °C และ 30-70%RH (สำหรับสุนัขและแมว) ในขณะที่ช่วงอุณหภูมิอากาศและความชื้นสัมพัทธ์ที่มนุษย์รู้สึกสบาย อยู่ที่ 22-27 °C และ 20-75%RH เพราะฉะนั้นหากเราอยู่ในบ้านสบาย สัตว์เลี้ยงก็ต้องอยู่สบายตามไปด้วย


2. บ้านสามารถป้องกันเสียงรบกวนที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงได้

โดยเฉพาะสุนัข เพราะบางพันธุ์จะส่งเสียงเห่าหอนดังมาก สาเหตุหนึ่งมาจากสัตว์เลี้ยงได้รับสิ่งเร้า หรือเสียงรบกวนจากภายนอกมากระตุ้นให้เกิดการตอบสนอง จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดเสียงดังทำให้เพื่อนข้างบ้านไม่พอใจ และเป็นสาเหตุการทะเลาะกันตามมาภายหลัง

ดังนั้นจึงควรออกแบบบ้านที่มีการป้องกันเสียงรบกวน เช่น การเลือกผนังกันเสียง ประตูกันเสียง ปิดช่องว่างหรือส่วนที่เสียงอาจลอดผ่านได้ระหว่างห้อง หรือแม้แต่การติดตั้งฉนวนดูดซับเสียง เพื่อลดการได้รับเสียงรบกวนจากภายนอก รวมถึงลดเสียงรบกวนจากสัตว์เลี้ยงของเราเองด้วย


3. บ้านมีช่องเปิดที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก

แม้เราจะสามารถใช้ชีวิตกินนอนร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้ หากดูแลทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงอย่างดี แต่การสร้างบ้านก็ยังต้องคำนึงถึงการแบ่งพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างเป็นสัดส่วน และสามารถระบายอากาศได้ดี อีกทั้งยังให้มีอากาศธรรมชาติถ่ายเทให้เพียงพอ เพราะจะช่วยลดปัญหากลิ่นสะสมต่างๆ เช่น กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ความอับชื้น และเชื้อรา

ดังนั้นการออกแบบบ้านที่สามารถเปิดประตูหรือหน้าต่างรับลมจากภายนอก ให้ไหลเวียนเข้ามาภายในบ้าน จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้มาก นอกจากนี้สร้างบ้านที่มีพื้นที่สวนภายนอกให้สัตว์เลี้ยงและคนสามารถออกไปรับลม แสง และอากาศภายนอกบ้านได้บ้างก็จะทำให้ทั้งคนและสัตว์รู้สึกผ่อนคลาย

 


4. แบ่งโซนพื้นที่ใช้สอยของคนและสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจน

กำหนดว่าพื้นที่ไหนที่เราใช้อยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยง เช่น ห้องนั่งเล่น ระเบียงบ้าน และพื้นที่ใดที่ไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงเข้าถึงได้ เช่น ห้องครัว ห้องนอน อาจใช้วิธีกั้นพื้นที่ตามช่วงเวลาที่ต้องการ เช่น กั้นด้วยประตู รั้ว หรือฉากกั้น ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้สะดวก


5. เลือกเฟอร์นิเจอร์และผ้าม่านโดยเน้นวัสดุผิวพื้นที่มีความทนทาน

เฟอร์นิเจอร์ควรเป็นวัสดุที่ทนต่อรอยขีดข่วนได้สูง มีค่าความทนทานของผิวหน้าระดับ AC5 (Abrasion Classification) เป็นอย่างน้อย หรือมาตรฐานอื่นเทียบเท่า เลือกใช้วัสดุผิวพื้นที่ไม่ดูดซึมน้ำและมีรอยต่อวัสดุน้อย หรือเลือกใช้สีและสารเคลือบผิวผนังเพื่อป้องกันการสะสมสิ่งสกปรกและเชื้อโรค สามารถทำความสะอาดได้ง่าย หรือทำความสะอาดตัวเองได้ เลือกใช้วัสดุที่ไม่กักเก็บฝุ่นและขนสัตว์ เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว รวมทั้งสัตว์เลี้ยงด้วย


6. ติดตั้งระบบไฟฟ้าในตำแหน่งที่ปลอดภัย

วางแผนสร้างบ้านสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการคำนึงถึงความปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่กิจกรรมของสัตว์เลี้ยง หากวางแผนติดตั้งระบบไฟฟ้าในตำแหน่งที่ไม่ดี หรืออยู่ใกล้กับพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงชอบอยู่ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและเป็นอันตรายต่อชีวิตของสัตว์เลี้ยง ผู้อยู่อาศัย รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ ด้วย


7. เลือกวัสดุปูพื้นที่ทนทาน ทำความสะอาดง่าย

พื้นบ้านถือเป็นส่วนที่เพื่อนรักสัตว์เลี้ยงใช้ทำกิจกรรมและคลุกคลีสัมผัสมากที่สุด ดังนั้นวัสดุปูพื้นควรทนทานต่อการใช้งาน และทำความสะอาดง่าย เช่น การเลือกพื้นพรม ที่ช่วยถนอมเท้าสัตว์เลี้ยง แต่ขณะเดียวกันก็อาจเป็นพื้นที่สะสมกลิ่นเหม็น ดักขนร่วง และเปื้อนได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่ควรเลือกพรมที่มีราคาแพงเกินไป และเลือกปูเฉพาะพื้นที่ ไม่ควรปูเต็มพื้นที่ห้อง นอกจากนี้ยังอาจเลือกใช้พรมแบบที่มีแพตเทิร์นเป็นชิ้นเล็กๆ มาต่อกัน เพื่อให้สามารถแยกทำความสะอาดได้ หากสัตว์เลี้ยงถ่ายของเสียไว้

ส่วนวัสดุปูพื้นบ้านอาจเลือกเป็นพื้นกระเบื้อง เพราะเป็นรอยยาก ทนต่อการขีดข่วน มีความเย็นสะสม เหมาะสำหรับให้สัตว์เลี้ยงนอนเล่นกับพื้นในวันที่อากาศร้อน และควรเลี่ยงพวกพื้นหินอ่อนหรือพื้นหินธรรมชาติที่ไม่ได้เคลือบ เพราะน้ำลายของสัตว์เลี้ยงจะทำให้เกิดรอยคราบด่างได้ รวมถึงพื้นไม้ก็ต้องเลี่ยงพวกพื้นไม้ลามิเนตหรือไม้เนื้ออ่อน เพราะจะทำให้เป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย

จะเห็นได้ว่า หากเราออกแบบบ้านเพื่อสัตว์เลี้ยง ให้อยู่อาศัยไปด้วยกันกับคน จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น ส่งผลให้มีสุขภาพจิตและร่างกายแข็งแรงตามไปด้วย รวมทั้งเจ้าของก็แฮปปี้ มีความสุข และปัจจุบันนี้มี บริษัทรับสร้างบ้าน ที่สามารถออกแบบบ้านเพื่อสัตว์เลี้ยงหลายแห่ง มีดีไซน์ที่แตกต่างแต่ลงตัว ถูกใจทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ก็จะทำให้การอยู่รวมกันไม่มีปัญหาอีกต่อไป

 

สนับสนุนบทความโดย

บริษัท เพอร์เฟค เฮาส์ แอนด์ ดีซายน์ จำกัด

99/80 ซ.แจ้งวัฒนะ 12 แยก 4-7-2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

โทรศัพท์: 0 2573 1908-9

อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

เว็บไซต์: www.perfectdee.com

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน

Home Builder Association

เลขที่ 2 ซอยลาดปลาเค้า 10 แขวงลาดพร้าว

เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

 : info@hba-th.org

 : 0-2570-0153,0-2940-2744

  : 0-2570-0154